ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่คนมักจะมีไว้เพื่อลงทุนไม่ว่าจะในรูปแบบทองรูปพรรณหรือทองคำแท่ง ซึ่งทองรูปพรรณสามารถนำมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อบ่งบอกถึงฐานะของผู้สวมใส่ได้ โดยราคาทองรูปพรรณจะสูงกว่าราคาทองคำแท่งที่เป็นทองคำเหมือนกัน คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่เท่ากัน? เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง? เราจะสรุปให้อ่านมาดูกันเลย
ในการชั่งน้ำหนักทองรูปพรรณมักจะมีน้ำหนักที่น้อยกว่าทองคำแท่งแต่เมื่อคำนวณราคาออกมาราคาทองรูปพรรณกลับแพงกว่าทองคำแท่ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาทองรูปพรรณจึงแพงกว่า
1. ค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ
ราคาทองรูปพรรณจะสูงกว่าทองคำแท่งเพราะทางร้านทองจะทำการบวกค่ากำเหน็จเข้าไปด้วยโดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 600 – 1,200 บาท ต่อบาททองคำ ซึ่งค่ากำเหน็จคือค่าแรงหรือค่าฝีมือของช่างทองที่เป็นผู้ทำทองรูปพรรณ โดยค่ากำเหน็จจะขึ้นกับความยากง่ายของการออกแบบ หากทองรูปพรรณที่มีลวดลายยากก็จะมีราคาที่สูง ส่วนทองคำแท่งจะมีค่าบล็อกแต่จะมีราคาที่ถูกกว่าเนื่องจากการทำทองคำแท่งเพียงหลอมเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเท่านั้น
2. ความยากง่ายของการทำทองรูปพรรณ
ทองรูปพรรณเป็นเครื่องประดับทองซึ่งทำมาจากทองคำ เช่น สร้อยคอทอง สร้อยข้อมือทอง แหวนทอง ต่างหูทอง โดยมีกระบวนการทำที่ยากง่ายแตกต่างกันไปในแต่ละลวดลายและชิ้นงานทำให้ราคาทองรูปพรรณแพงกว่าทองคำแท่ง หากทองรูปพรรณที่คุณต้องการมีลวดลายที่ทำยากก็จะส่งผลต่อราคาทองรูปพรรณให้สูงขึ้นไปด้วย
3. น้ำหนักไม่เท่ากัน
ทองรูปพรรณ 1 บาท จะมีน้ำหนัก 15.16 กรัม ในขณะที่ทองคำแท่งจะมีน้ำหนัก 15.244 กรัม ทำให้ในราคาที่เท่ากันจะได้ทองรูปพรรณน้อยกว่า ราคาทองรูปพรรณจึงแพงกว่า
นอกจากเหตุผลข้างต้นแล้วทองรูปพรรณยังมีปัจจัยเรื่องการเป็นเครื่องประดับที่นำมาสวมใส่และอาจทำให้เกิดการสึกกร่อนของทองคำ และทองรูปพรรณต้องใช้น้ำประสานทองในการเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ ทำให้ราคาทองรูปพรรณมีราคาแพงกว่าแต่อาจถูกหักค่าน้ำประสานทองและค่ากำเหน็จในวันที่นำทองรูปพรรณไปขาย