หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า เวนคืนประกันชีวิต วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการเวนคืนประกันชีวิต และพาไปดูกันว่าการเวนคืนประกันชีวิตนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
การเวนคืนประกันชีวิตหรือการเวนคืนกรมธรรม์ คือ การที่ผู้เอาประกันภัยขอยกเลิกกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินตามมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ที่กำหนดอยู่ในตารางมูลค่ากรมธรรม์ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆนั่นก็คือ การขอยกเลิกกรมธรรม์ เพื่อรับเงินสดจากบริษัทประกัน ซึ่งการจะขอเวนประกันชีวิตได้ก็ต่อเมื่อ กรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมูลค่าเงินสดจะเกิดขึ้นในปีที่ 2 หรือมีการเบี้ยประกันไปแล้ว 2 ปี ซึ่งการเวนคืนประกันชีวิตนี้เป็นทางออกให้ใครหลายคนเมื่อประสบกับปัญหาการเงิน ต้องการนำเงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายในด้านต่างๆ หรือบางคนอาจจะเป็นในกรณีของการซื้อประกันชีวิตผิดประเภทหรือไม่ตอบกับความต้องการ นอกจากนี้บางคนยังเกิดการคำนวณรายจ่ายผิดพลาด จึงต้องยกเลิกกรมธรรม์เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายจ่าย โดยการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตไม่ควรเกิน 10% ของเงินได้สุทธิหลังหักภาษี ซึ่งข้อดีก็คืออย่างน้อยก็ทำให้เราสามารถได้ผลประโยชน์หรือเงินที่เราจ่ายไปแล้วกลับคืนมาบ้าง แม้อาจจะไม่ได้กลับคืนมาอย่างเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังดีกว่าการที่เราไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยนั่นเอง แต่ถึงกระนั้น ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันว่า หากเรายกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เราได้ทำไป แต่เมื่ออายุมากขึ้นต้องการกลับมาทำเบี้ยประกันที่จะต้องจ่าย จะเพิ่มขึ้นตามอายุของเราด้วยนั่นเอง หรือ หากเราทำประกันชีวิตใหม่ แล้วเกิดช่วงระหว่างที่เรายกเลิกกรมธรรม์ไป เราดันเกิดปัญหาสุขภาพ บริษัทประกันชีวิตก็อาจไม่รับหรือถ้ารับก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มหรือยกเว้นไม่คุ้มครองความเสียหายจากโรคที่เป็นอยู่นั่นเอง
เรียกได้ว่าในการขอเวนคืนประกันชีวิตนั้น แม้จะสามารถทำได้ แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น แต่หากเป็นไปได้เมื่อทำประกันชีวิตไปแล้วหากไม่มีความจำเป็นจริงๆก็ไม่ควรที่จะทำการเวนคืนประกันชีวิต เพราะอย่างน้อยการมีประกันชีวิตไว้ย่อมดีและคุ้มค่ามากกว่านั่นเอง หากผู้อ่านท่านใดมีความประสงค์อยากทำประกันชีวิตสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KWI Life ประกันชีวิตที่คุณออกแบบแผนประกันเองได้ พร้อมมอบผลตอบแทนและความคุ้มครองให้คุณสูงสุดค่ะ
จะเวนคืนประกันชีวิต มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
ปิดความเห็น บน จะเวนคืนประกันชีวิต มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง